รู้จักรุ่นย่อย ขนาดและวัสดุ Lady Dior
รู้จักรุ่นย่อย ขนาด และวัสดุ Lady Dior
จาก “Mini” ถึง “Large” แต่ละขนาดของ Lady Dior มีเสน่ห์เฉพาะตัว พร้อมดีเทลวัสดุที่บ่งบอกความเป็นผู้หญิงอย่างสมบูรณ์แบบ — มาดูกันว่ารุ่นไหนเหมาะกับคุณที่สุด
  ทำไม Lady Dior ถึงมีหลายขนาด?
Lady Dior ถูกออกแบบให้ตอบโจทย์ผู้หญิงทุกไลฟ์สไตล์ ตั้งแต่รุ่นจิ๋วอย่าง Micro ที่ใช้เป็นเครื่องประดับสุดหรู ไปจนถึงรุ่น Large ที่เหมาะสำหรับทำงานหรือเดินทาง สัดส่วนแต่ละรุ่นถูกคำนวณมาอย่างแม่นยำเพื่อให้ยังคงรูปทรงอันสง่างามแม้ขนาดต่างกัน
  
  วัสดุยอดนิยมของ Lady Dior
Lady Dior ผลิตจากวัสดุคุณภาพระดับสูงหลายประเภท โดยแต่ละแบบสะท้อนบุคลิกต่างกัน ตั้งแต่ความหรูเรียบไปจนถึงความสนุกของผ้าแฟชั่น
  - Lambskin (หนังแกะ): เนื้อนุ่ม หรู แต่ต้องดูแลพิเศษ ไม่ควรขูดหรือโดนน้ำ
 - Patent Leather (หนังแก้ว): เงาสะดุดตา ทำความสะอาดง่าย แต่ควรหลีกเลี่ยงผ้าสีเข้ม
 - Calfskin: หนังลูกวัวเนื้อแน่น แข็งแรง ใช้ได้ทุกวัน
 - Tweed/Fabric: สำหรับคนที่ชอบลุคแฟชั่น สนุกกับลวดลายและสี
 - Exotic Leather: เช่น จระเข้หรือหนังงู หรูหราสำหรับนักสะสม
 
เลือกสีให้เหมาะกับสไตล์
สีคลาสสิกอย่าง ดำ เบจ แดงอมเชอร์รี่ และ ชมพูพาสเทล คือสีที่ถือว่าสวยทุกยุค และเป็นสีรีเซลดีในตลาดมือสอง ส่วนโทนพิเศษอย่าง Blue Navy หรือ Metallic Gold จะให้ลุคหรูหราทันสมัย
  เคล็ดลับการดูแลกระเป๋า Lady Dior
- เก็บในถุงผ้าและยัดกระดาษรักษาทรง
 - หลีกเลี่ยงแสงแดดโดยตรงและความชื้น
 - ใช้ผ้าแห้งนุ่มเช็ดหลังใช้งานทุกครั้ง
 - สำหรับหนังแกะ ใช้ครีมดูแลหนังบาง ๆ ทุก 3 เดือน
 
  Lady Dior ไม่ได้เป็นเพียงกระเป๋า แต่เป็นสัญลักษณ์ของความงามเหนือกาลเวลา แต่ละใบเย็บด้วยมือกว่า 140 ขั้นตอน และยังคงเป็นงานศิลป์ที่สะท้อนพลังของผู้หญิงทั่วโลกจนถึงวันนี้
วัสดุหรูหายากและรุ่นพิเศษของ Lady Dior
สำหรับผู้ที่หลงใหลในงานศิลป์ของ Dior — Lady Dior ไม่ได้มีเพียงรุ่นหนังลูกวัวหรือผ้าแคนวาสสุดคลาสสิกเท่านั้น แต่ยังมีรุ่นหายากที่ผลิตในจำนวนจำกัด เช่น หนังจระเข้ หนังงู หนังขนสัตว์ รวมถึงรุ่นพิเศษประดับคริสตัล ซึ่งสะท้อนความหรูหราเหนือกาลเวลาและเป็นที่ต้องการของนักสะสมทั่วโลก
  โดยเฉพาะ Lady Dior หนังจระเข้ประดับคริสตัล ซึ่งเป็นรุ่นล้ำค่าที่สุดของ Dior ผลิตจากหนัง Crocodylus Porosus ผ่านการฟอกและขัดมันด้วยมือทุกขั้นตอน พร้อมอะไหล่เงินที่ประดับคริสตัลแท้ตั้งแต่ตัว “D.I.O.R” Charm ไปจนถึงขอบซิป — เป็นงานฝีมือระดับ Haute Couture ที่ใช้เวลาหลายสิบชั่วโมงต่อหนึ่งใบ
ด้วยจำนวนการผลิตที่จำกัดมาก (บางปีไม่ถึง 5 ใบทั่วโลก) ทำให้ราคาของรุ่นนี้ในตลาดสะสมหรูอยู่ที่ ไม่ต่ำกว่า 1,500,000 บาท และถือเป็นหนึ่งใน Lady Dior ที่มีมูลค่าการลงทุนสูงที่สุดในโลกแบรนด์เนม
ความงามเหนือกาลเวลา... ที่บ่งบอกถึงศิลปะ ความหรู และคุณค่าของการครอบครอง
        
                                


